ตลท.สรุปสภาวะตลาดหุ้นไทยเดือนมิ.ย.ลดลง2%

สภาวะตลาดหุ้นไทยเดือนมิถุนายน 2566 นักวิเคราะห์คาดรัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นพยุงเศรษฐกิจซบเซา ส่งผลบวกต่อการท่องเที่ยว

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยว่า ในเดือนมิถุนายน 2566 ธนาคารโลก คาดเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะเติบโตขึ้นที่ร้อยละ 3.9 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนในตลาดหุ้นไทยปรับลดลงจากต้นปี 2566 จากกรณีมีหุ้นกู้ของบริษัทจดทะเบียนบางแห่งผิดนัดชำระหนี้ ส่งผลให้ผู้ลงทุนมีความกังวลในการลงทุนทั้งในตลาดตราสารทุน และตราสารหนี้ จึงเห็นแรงเทขายในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่การเมืองในประเทศที่มีพัฒนาการดีขึ้นหลังได้ประธานสภาฯ ส่งผลให้ดัชนีต่างๆ เริ่มปรับตัวดีขึ้น และหากพิจารณาจากอัตราส่วน Forward PE ของ SET ยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทำให้ผู้ลงทุนบุคคลและสถาบันในประเทศเริ่มกลับมาซื้อสุทธิในครึ่งแรกปี 2566

สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย  สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 SET Index ปิดที่ 1,503.10 จุด ปรับลดลง 2.0% จากเดือนก่อนหน้า และปรับลดลง 9.9% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า โดยปรับไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นใน ASEAN 

โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มการเงิน, กลุ่มบริการ และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

ในเดือนมิถุนายน 2566 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 47,893 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 33.2% โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน 6 เดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 58,670 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่ห้า โดยในเดือนมิถุนายน 2566 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 8,617 ล้านบาทอย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่14 และมีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจบางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค(BLC) และใน mai 2 หลักทรัพย์ได้แก่ บมจทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN) และ บมจไทยพาร์เซิล (TPL)  

ด้านForward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย  สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 อยู่ที่ระดับ 16.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.8 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 20.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.2 เท่า

ด้านอัตราเงินปันผลตอบแทน  สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 อยู่ที่ระดับ 3.22% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.38%

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือนมิถุนายน 2566 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 608,801 สัญญา เพิ่มขึ้น 21.4% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures และในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน  558,565 สัญญา ลดลง 2.2% จากปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures

#SET #StockReview #ข่าวหุ้น #ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย #ข่าวเศรษฐกิจ #ภาวะตลาด